บิดาแห่งสหกรณ์
บิดาแห่งสหกรณ์
พระราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัส กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์
พระอิสริยยศ | พระราชวรวงศ์เธอ |
ฐานันดรศักดิ์ | พระองค์เจ้าชั้นโท |
ราชวงศ์ | จักรี |
ข้อมูลส่วนพระองค์ | |
ประสูติ | 10 มกราคม พ.ศ. 2419 |
สิ้นพระชนม์ | 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2488 (69 ปี) |
พระราชบิดา | กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ |
พระมารดา | จอมมารดาเลี่ยมเล็ก |
ชายา | หม่อมเจ้าพรพิมลพรรณ รัชนี |
หม่อม | หม่อมพัฒน์ รัชนี ณ อยุธยา |
พระบุตร | 11 องค์ |
หาอำมาตย์โท พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ มีพระนามเดิมว่าพระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัส หรือนามปากกว่า น.ม.ส. (10 มกราคม พ.ศ. 2419 – 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2488) ทรงเป็นปราชญ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นพระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย ทรงเป็นต้นราชสกุล"รัชนี"[1] สิ้นพระชนม์เมื่อวันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2488 ด้วยพระโรคหลอดโลหิตในสมองตัน สิริพระชนมายุ 68 ปี 6 เดือน 13 วัน
พระประวัติ[แก้]
พระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัส เป็นพระโอรสในกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ (พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว) กับจอมมารดาเลี่ยม (เล็ก) ธิดานายสุดจินดา (พลอย ชูโต) [2] ประสูติเมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2419 ในพระบวรราชวัง มีพระเชษฐภคินีหนึ่งพระองค์ คือ พระราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภัททาวดีศรีราชธิดา (พ.ศ. 2414 - 2442)
เมื่อเยาว์วัยเรียนหนังสือกับมารดาที่ตำหนัก เมื่อชันษา 5 ขวบ ก็ทรงอ่านหนังสือได้คล่อง ทรงเข้าศึกษาที่โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ เมื่อ พ.ศ. 2429 และต่อมาศึกษาภาษาอังกฤษจนถึง พ.ศ. 2436 จึงเข้ารับราชการในตำแหน่งนายเวร กระทรวงธรรมการ ขณะพระชันษาได้ 16 ปี และได้เลื่อนเป็นผู้ช่วยในกรมศึกษาธิการใน ทรงรับหน้าที่พิเศษเป็นข้าหลวงสอบไล่วิชาหนังสือไทย ทรงเป็นกรรมการพิเศษร่างพระราชบัญญัติพิจารณาความแพ่ง และทรงได้เลื่อนเป็นผู้ช่วยที่ปรึกษากระทรวงพระคลังมหาสมบัติ
วันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2432 ทรงผนวชเป็นสามเณร โดยมีพระพรหมมุนี (เหมือน สุมิตฺโต) เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระเมธาธรรมรส (อ่อน อหึสโก) เป็นพระศีลาจารย์[3]
เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสยุโรป พ.ศ. 2440 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัสตามเสด็จด้วย และทรงศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ เป็นเวลา 2 ปี เสด็จกลับจากประเทศอังกฤษเมื่อ พ.ศ. 2442
พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ โปรดเล่นกีฬาเทนนิส ทรงพระดำริตั้ง ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย ขึ้นเมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2470
พระกรณียกิจ[แก้]
พ.ศ. 2442 ทรงเข้ารับราชการในกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ ทรงรับตำแหน่งเป็นผู้ช่วยอธิบดีกรมตรวจและกรมสารบาญชี
พ.ศ. 2444 ทรงย้ายเป็นปลัดกรมธนบัตร และเจริญก้าวหน้าเป็น ผู้แทนเจ้ากรมธนบัตร เจ้ากรมกองที่ปรึกษาอธิบดีกรมประสาปน์สิทธิการ อธิบดีกรมตรวจและกรมสารบาญชี อธิบดีกรมพาณิชย์และสถิติพยากรณ์ ทรงจัดตั้งและวางรากฐานกิจการสหกรณ์ จนในที่สุดได้เลื่อนตำแหน่งเป็นรองเสนาบดี กระทรวงพาณิชย์
วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2454 พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัส เป็นองคมนตรี[4] และในวันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2456 ทรงสถาปนาเป็นพระราชวรวงษ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ ทรงศักดินา 11000[5]
พ.ศ. 2468 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ ดำรงตำแหน่งอุปนายกกรรมการหอพระสมุดสำหรับพระนคร ซึ่งต่อมาได้รวมเข้ากับกรมศิลปากร ต่อมาได้เปลี่ยนจากหอสมุดสำหรับพระนครเป็น "ราชบัณฑิตยสภา"
การสหกรณ์ไทย[แก้]
ทรงดำริให้จัดสร้างสหกรณ์วัดจันทร์ สหกรณ์แห่งแรกของไทย[ต้องการอ้างอิง]
พระนิพนธ์[แก้]
ในด้านงานพระนิพนธ์ ทรงเป็นกวีเอก ในการนิพนธ์ร้อยกรองและร้อยแก้วมากมายหลายเรื่อง ทรงใช้พระนามแฝงว่า "น.ม.ส." ย่อมาจากตัวอักษรท้ายพระนามเดิม รัชนี แจ่ม จรัส ทรงมีผลงานตีพิมพ์ (บางส่วน) ได้แก่
- พ.ศ. 2447 - สงครามญี่ปุ่น กับ รัสเซีย 2 เล่ม
- พ.ศ. 2448 - จดหมายจางวางหร่ำ ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์รายเดือน "ทวีปัญญา" ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
- พ.ศ. 2453 - สืบราชสมบัติ
- พ.ศ. 2459 - พระนลคำฉันท์ และ ตลาดเงินตรา
- พ.ศ. 2461 - นิทานเวตาล พิมพ์ครั้งแรก เพื่อแจกในงานพระราชทานเพลิงศพ หม่อมพัฒน์ รัชนี
- พ.ศ. 2465 - กนกนคร
- พ.ศ. 2467 - ความนึกในฤดูหนาว
- พ.ศ. 2469 - ปาฐกถา เล่ม 1 พิมพ์แจกในงานพระราชทานเพลิงศพ เจ้าจอมมารดาเลี่ยม
- พ.ศ. 2472 - ปาฐกถา เล่ม 2
- พ.ศ. 2473 - ประมวญนิทาน น.ม.ส. รวบรวมจากหนังสือ ลักวิทยาและทวีปัญญา
- พ.ศ. 2474 - เห่เรือ ทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ในพระราชพิธีทรงเปิดสะพานปฐมบรมราชานุสรณ์ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2475
- พ.ศ. 2474 - บทร้อง"อโหกุมาร" - ทรงนิพนธ์ด้วยสยามวิเชียรฉันท์8 ประทานให้เป็นบทร้องประจำโรงเรียนเทพศิรินทร์
- พ.ศ. 2473 - กลอนและนักกลอน
- พ.ศ. 2474 - คำทำนาย
- พ.ศ. 2477 - เครื่องฝึกหัดเยเตลแมนในออกซ์ฟอร์ดและเคมบริดจ์
- พ.ศ. 2480 - เสภาสภา
- พ.ศ. 2481 - ปฤษาณาเถลิงศก
- (ไม่ทราบปีที่พิมพ์ แต่ทรงนิพนธ์ช่วงก่อนและระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2) - ยุคกลางในยุโรป หรือ นิทานชาลมาญ
- พ.ศ. 2487 - สามกรุง - พระนิพนธ์สุดท้ายในกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ ขณะนั้นพระองค์ประชวรต้อกระจก ทรงให้ หม่อมเจ้าหญิงวิภาวดี รังสิต (พระธิดาในกรม) จดตามคำบอกของพระองค์
พระโอรส-ธิดา[แก้]
หม่อมพัฒน์ บุนนาค[แก้]
พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ ได้ทำพิธีอาวาหะมงคล กับคุณพัฒน์ บุนนาค บุตรีเจ้าพระยาภาสกรวงศ์ และท่านผู้หญิงเปลี่ยน เมื่อ พ.ศ. 2444 มีพระโอรส-ธิดา คือ
- หม่อมเจ้าจันทร์เจริญศิริ รัชนี
- ท่านหญิงศะศิเพลินพัฒนา บุนนาค (หม่อมเจ้าศะศิเพลินพัฒนา รัชนี)
- หม่อมเจ้าจันทร์จิรายุวัฒน์ รัชนี
- หม่อมเจ้ารัชนีพัฒน์พิทยาลงกรณ์ รัชนี
- ท่านหญิงศะศิธรพัฒนวดี บุนนาค (หม่อมเจ้าศะศิธรพัฒนวดี รัชนี)
- หม่อมเจ้าจันทร์พัฒน์โมลีจุฑาพงศ์ รัชนี
หม่อมเจ้าพรพิมลพรรณ วรวรรณ[แก้]
เมื่อหม่อมพัฒน์ อนิจกรรมแล้ว ทรงเสกสมรสใหม่ กับหม่อมเจ้าหญิงพรพิมลพรรณ วรวรรณ พระธิดาของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์เมื่อ พ.ศ. 2462 มีพระโอรส-ธิดา คือ
พระโอรส-ธิดา เรียงตามพระประสูติกาล[แก้]
- หม่อมเจ้าหญิงจันทร์เจริญ (พ.ศ. 2445 - ?) [6]
- หม่อมเจ้าศะศิเพลินพัฒนา รัชนี
- หม่อมเจ้าจันทร์จิรายุวัฒน์ รัชนี (21 ก.ค. 2453 - 29 พ.ย. 2534)
- หม่อมเจ้ารัชนีพัฒน์พิทยาลงกรณ์ รัชนี
- หม่อมเจ้าศะศิธรพัฒนวดี รัชนี (18 มิ.ย. 2457 - 28 มิ.ย. 2549)
- หม่อมเจ้าจันทร์พัฒน์โมฬีจุฑาพงศ์ รัชนี (12 มิ.ย. 2459 - 8 มิ.ย. 2535)
- หม่อมเจ้าวิภาวดี รัชนี (20 พ.ย. 2463 - 16 ก.พ. 2520)
- หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี (20 ม.ค. 2464 -)
- หม่อมเจ้าจันทร์จิรกาล รัชนี
- หม่อมเจ้าชาย
- หม่อมเจ้าจันทร์จรัส รัชนี (? - 28 ธ.ค. 2450)
ธรรมเนียมพระยศของ พระราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัส กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ | |
---|---|
การทูล | ฝ่าพระบาท |
การแทนตน | เกล้ากระหม่อม/หม่อมฉัน |
การขานรับ | เกล้ากระหม่อม/เพคะ |
เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]
- พ.ศ. 2459 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นปฐมจุลจอมเกล้า (ป.จ.)[7]
- พ.ศ. 2451 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้น 3 ตริตราภรณ์ช้างเผือก (ต.ช.)[8]
- พ.ศ. 2447 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้น 3 ตริตาภรณ์มงกุฎไทย (ต.ม.)[9]
สถานที่อันเนื่องด้วยพระนาม[แก้]
- อาคารพิทยาลงกรณ์ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยแม่โจ้
- ห้องสมุดพิทยาลงกรณ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- โรงเรียนพิทยาลงกรณ์พิทยาคม แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร
ราชตระกูล[แก้]
พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ | พระชนก: กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ | พระอัยกาฝ่ายพระชนก: พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว | พระปัยกาฝ่ายพระชนก: พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย |
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนก: สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี | |||
พระอัยยิกาฝ่ายพระชนก: เจ้าคุณจอมมารดาเอม | พระปัยกาฝ่ายพระชนก: พระยาศิริไอยศวรรค์ (ฟัก) | ||
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนก: ไม่ทราบนาม | |||
พระชนนี: จอมมารดาเลี่ยมเล็ก ชูโต | พระอัยกาฝ่ายพระชนนี: นายสุดจินดา (พลอย ชูโต) | พระปัยกาฝ่ายพระชนนี: จมื่นศรีสรรักษ์ (ถัด ชูโต) | |
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนนี: ไม่ทราบนาม | |||
พระอัยยิกาฝ่ายพระชนนี: ท่านนิ่ม สวัสดิ์-ชูโต | พระปัยกาฝ่ายพระชนนี: พระยาสุรเสนา (สวัสดิ์ ชูโต) | ||
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนนี: คุณเปี่ยม บุนนาค (ธิดาสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศ บุนนาค)) |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น