บิดาแห่งสังคมวิทยา
บิดาแห่งสังคมวิทยา
บิดาแห่งสังคมวิทยา
เอมิล เดอร์กไฮม์
หากกล่าวถึง บิดาแห่งสังคมวิทยา เราอาจจะพอนึกภาพออก เพราะพวกเขาเหล่านี้ได้รับการยอมรับในสังคมอย่างกว้างขว้าง หรือแถบจะทุกพื้นที่บนโลกนี้ก็ได้ และคงไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก หากจะกล่าวถึงสามนักคิดผู้ยิ่งใหญ่ทางสังคมศาสตร์อย่าง คาร์ล มากร์ซ์ (Karl Marx) แม็ก เวเบอร์ (Max Weber) และที่เราสนใจจะนำเสนอในครั้งนี้คือ เอมิล เดอร์กไฮม์ (Emile Durkheim)
เอมิล เดอร์กไฮม์ เกิดเมื่อ ค.ศ.1858 และเสียชีวิตเมื่อ ค.ศ.1917 เดอร์กไฮม์ เป็นนักคิดชาวฝรั่งเศส เขาเกิดมาในช่วงที่ยุดอุตสาหกรรมเฟื่องฟู การเมืองการปกครองสับสนและวุ่นวาย คนต่างเป็นปัจเจกสูง เขาหวาดกลัวและเกลียดความไร้ระเบียบของสังคม และนี้คือสิ่งที่ทำให้เขาทุ่มเทศึกษาเกี่ยวกับสังคม
ในทัศนะของเดอร์กไฮม์ เขามองว่า สังคมที่จะเป็นโลกสมัยใหม่ไม่จำเป็นที่จะต้องขาดความไร้ระเบียบแต่อย่างใด เช่น การนัดหยุดงานของอุตสาหกรรม การต่อต้านทางการเมือง ที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงนั้น เป็นต้น
“ข้อเท็จจริงทางสังคม” (Social facts) เป็นสิ่งที่เดอร์กไอม์ใช้อธิบายสังคม และที่เดอร์กไฮม์เน้นในตรงที่นี้คือ แรงยึดเหนี่ยวทางสังคม (social solidarity) , บรรทัดฐาน(norm) ,สำนึกร่วม(collective consciousness) ,ศาสนา ,การแบ่งงานกันทำ
ข้อเท็จจริงทางสัมคมแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ 1. รูปธรรม(material social facts) เช่น การแบ่งงานกันธรรม และ 2. นามธรรม (nonmaterial social facts) เช่น สำนึกร่วม ศีลธรรม
ข้อเท็จจริงทางสังคม คือ สิ่งที่อยู่ภายนอกปัจเจกแต่ละคน และเป็นสิ่งที่มีอำนาจมีพลังบังคับควบคุมปัจเจก มีขอบเขตกว้างขว้าง เช่น ความเชื่อทางศีลธรรมที่มีอยู่ร่วมกันและมีอิทธิพลของสถาบัน ทำให้ปัจเจกเกิดความเคยชิน เชื่อ ยอมรับ เข้าใจร่วมกัน จนเกิดแรงยึดเหนี่ยวทางจิตใจของคนในสังคม
ตัวอย่าง ประเพณีบุญบั้งไฟที่จังหวัดยโสธร เป็นประเพณีขอฝนของชาวยโสธรที่มีมาแต่อดีต ชาวยโสธรทุกคนหรือหลายคนที่ไปทำงานต่างถิ่นจะเดินทางกลับบ้านเพื่อไปร่วม
งานบุญบั้งไฟนี้ ประเพณีนี้ไม่เพียงแต่เป็นการทำบุญอย่างเดียวแต่ยังเป็นสิ่งที่ช่วยให้คนในชุมชน ครอบครัว กลับมารวมตัวกันเพื่อพบปะสังสรรค์ จากที่ห่างกันเพื่อไปทำมาหากิน นี้แหล่ะคือ ข้อเท็จจริงทางสังคม
หากทุกคนมีสำนึกร่วมในสิ่งเดียวกันแล้ว การกระทำการใดๆก็คงจะดำเนินไปได้ด้วยดี เช่น การใส่ชุดขาวหรือดำไปงานศพ การขึ้นลงบันไดแล้วชิดซ้ายทำให้ไม่เกิดปัญหาในการสวนทางกันหรือเดินชนกัน ก็เป็นสำนึกร่วมที่เป็นข้อเท็จจริงทางสังคม จากตัวอย่างที่กล่าวมา คุณคิดว่าแนวคิดของ เอมิล เดอร์กไฮม์ จะทำให้สังคมของเราอยู่กันอย่างเป็นระเบียบขึ้นหรือไม่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น