พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย

พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย


                    พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 




พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย

       พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงได้รับยอกย่องในพระราชสมัญญานามว่า พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทยเพราะทรงพระปรีชาสามารถ ทรงศึกษาเชี่ยวชาญภาษาต่างประเทศหลายภาษา เช่น บาลี อังกฤษ ละตินเป็นพิเศษ สำหรับพระปรีชาสามารถและอัจฉริยะทางดาราศาสตร์ ทรงศึกษาโดยพระองค์เองจากตำราไทยและมอญ ซึ่งแปลจากตำราโบราณของฮินดู และทรงศึกษาตำราดาราศาสตร์และคณิตศาสตร์จากยุโรป จนสามารถคำนวณได้ล่วงหน้าถึง 2 ปีว่า จะเกิดสุริยุปราคาเต็ม ดวงในวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ.2411 และเห็นได้อย่างชัดเจนในประเทศไทยที่บ้านคลองลึก ตำบลหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ดังกล่าวมาแล้วในตอนต้นเป็นเหตุให้ทรงได้รับการยกย่องจากวงการวิทยาศาสตร์ ของชาติมหาอำนาจในยุคนั้นเป็นอย่างสูง              พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงได้รับทูลเกล้า ฯ ถวายพระเกียรติ ให้ทรงเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของสัตว์ วิทยาสมาคมแห่งสหราชอาณาจักร บรรดาประมุขของต่างประเทศในยุโรปอเมริกาต่างพากันตระหนักดีว่า ทรงสนพระทัยวิทยาศาสตร์ยิ่งนักในจำนวนเครื่องราชบรรณาการ  จึงมักมีเครื่องมือและหนังสือทางวิทยาศาสตร์รวมอยู่ด้วยเสมอ  เช่น พระนางเจ้าวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร (อังกฤษ) ได้ถวายกล้องโทรทรรศน์ ซึ่งเซอร์ ยอนบาวริ่ง ได้บันทึกไว้ว่า กล้องที่นำมาถวายมีคุณภาพต่ำกว่ากล้องโทรทรรศน์ที่ทรงมีอยู่แล้วเสียอีก กล่าวกันว่าในห้องส่วนพระองค์จะมีเครื่องมือวิทยาศาสตร์เหมือนห้องนักปราชญ์ ราชบัณฑิตที่มีชื่อเสียงและมั่งคั่งของโลกในสมัยนั้นทีเดียว
               ทรงเป็นนักปฏิบัติทดลองรวบรวมข้อมูล  ทรงวัดเส้นรุ้งเส้นแวงด้วยพระองค์เอง  ทรงสร้างหอดูดาวขึ้นที่เขาหลวง จังหวัดเพชรบุรี  ทรงตั้งเวลามาตรฐานของไทย  โดยโปรดให้สร้างนาฬิกาขึ้นในพระบรมมหาราชวัง  และตั้งเวลามาตรฐานเพื่อให้ชาวต่างประเทศในเมืองไทยด้วย
              ทรงแก้ปัญหาบ้านเมืองบางประการ โดยอาศัยหลักวิทยาศาสตร์ คือมีเหตุผลรายละเอียดถี่ถ้วน ไม่เชื่อโชคลาง อาทิเช่น ประกาศเรื่องป่วงใหญ่ และประกาศดาวหาว มีความว่า
              "….ที่คิดว่าโรคป่วงใหญ่ เป็นกองทัพภูตผีปีศาจนั้นไม่ถูกต้อง และคนทั้งปวงคิดจะคุ้มครองตนเองโดยการบ่น คาถา ภาวนาพิธีต่าง ๆ  และอ้อนวอนต่อเทวดาเทพบุตรเทพธิดา  และผีปีศาจต่าง ๆ นั้นขอให้ช่วยคุ้มครอง  การบรวงสรวงบูชายัญเสียกบาลด้วยวิธีต่าง ๆ เป็นที่น่าเกลียดน่าชัง น่าหัวร่อ "
              เรื่องดาวหางขึ้นทรงปลอบใจว่าอย่าได้วิตก ทรงชี้ให้เห็นว่าเป็นเพียงปรากฎการณ์ธรรมชาติ ทรงแนะวิธีแก้ความเชื่อไว้ว่าถ้ากลัวฝนแล้งก็ให้รีบทำนาเสียขณะที่มีฝนอยู่ ถ้าครอบครัวใดไม่ได้ทำนาก็ให้จัดซื้อข้าวไว้ให้พอกิน ถ้ากลัวฝีดาษก็ให้มาปลูกฝีเสียที่โรงทาน….. "ถ้าดาวหางมาบนฟ้าโกรธขึ้งหึงสาพยาบาทอาฆาตแค้นอะไรอยู่กับเจ้านาย มาแล้วจะไม่มาตรงไล่เอาเจ้านายทีเดียวไม่เห็นจริงด้วย"
พระอัจฉริยภาพทางด้านวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์
      
ในรัชสมัยของพระองค์ ได้ปรากฏดาวหางดวงใหญ่ ดวงคือ ดาวหางฟลูเกอร์กูส์ ในปี พ.ศ. 2353 ดาวหางโดนาติ (Donati) ในปี พ.ศ.2401  และดาวหางเทบบุท(Tebbutt) ในปี พ.ศ. 2404  ทำให้ชาวบ้านต่างหวาดกลัวเพราะเชื่อว่าเป็นลางร้าย  พระองค์ทรงออกประกาศเตือนล่วงหน้า และทรงอธิบายอย่างมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ว่า ดาวหางเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ มีผู้คนเห็นกันทั่วโลกไม่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น 
พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย
        จากเหตุการณ์สำคัญที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชดำเนินทอดพระเนตรสุริยุปราคาเต็มดวง ทำให้ประชาชนชาวไทยและทั่วโลกได้ทราบถึงพระอัจฉริยภาพด้านวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์  ในปี พ.ศ.2525 เนื่องในโอกาสฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบรอบ 200 ปี คณะนักวิทยาศาสตร์ไทยและสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย มีมติให้วันที่ 18 สิงหาคม เป็นวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ และถวายพระราชสมัญญานามแด่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวว่า "พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย"  และต่อมาได้มีการสร้างอุทยานวิทยาศาสตร์ที่บ้านหว้ากอ  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่ออุทยานนี้ว่า "อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์"  เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ.2533  และได้รับพระบรมราชานุญาตให้จัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมรูปหล่อประทับนั่งบนพระเก้าอี้ฉลองพระองค์เครื่องแบบทหารเรือชุดเดียวกับวันที่พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินมาบ้านหว้ากอ หันพระพักตร์ออกทะเลด้านทิศตะวันออก
        ปัจจุบัน เมื่อถึงวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติทางจังหวัดร่วมกับหน่วยงานต่างๆ นักเรียน พ่อค้า ประชาชน ได้จัดพิธีสักการะน้อมรำลึกถึงพระองค์ท่านเป็นประจำทุกปีมิได้ขาด

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บิดาแห่งสังคมวิทยา

บิดาแห่งสหกรณ์

บิดาแห่งเศรษฐศาสตร์